107) ทุกครั้ง 7. เอกสารประกอบสัญญาของผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร หรือสำเนาการเปลี่ยนแปลงชื่อ-สกุล (ถ้ามี) จะต้องมีความสมบูรณ์ (ไม่ชำรุด มองเห็นชัดเจน ไม่หมดอายุ) และจะต้องมีการลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ 8. ในกรณีเปลี่ยนแปลง/แก้ไข หรือเพิ่มเติมผู้มีอำนาจกระทำการแทนสถานศึกษาจะต้องเร่งดำเนินการจัดทำตัวอย่างลายมือชื่อตามแบบฟอร์ม และนำส่งให้ธนาคารโดยเร็ว 9. ตรวจสอบ e-mail ของสถานศึกษาที่ระบุในระบบ e-Studentloan เป็นประจำเพื่อทราบข้อมูลต่างๆ จากธนาคารได้ทันเวลา เช่น รายงานการโอนเงิน รายชื่อผู้กู้ที่ต้องแก้ไขเอกสารและนำส่งใหม่ เป็นต้น
108 (ดาวน์โหลดที่เว็บไซต์กองทุนฯ) กรอกรายละเอียดให้ถูกต้อง พร้อมเอกสารแนบที่เกี่ยวข้อง เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือการเปลี่ยนชื่อ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร *สำเนาเอกสารทุกฉบับ ต้องรับรองสำเนาถูกต้องจากผู้กู้ยืม และนำส่งผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม (บมจ. ธนาคารกรุงไทย และ/หรือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) ลูกหนี้ กยศ. ทุกคน ที่อยู่ในระบบการจ่ายเงินเดือน หากมีหนังสือจากกองทุนแจ้ง นายจ้างก็ต้องมีหน้าที่หักเงินเดือนตามกฎหมาย
ศ. 2541 นอกจากนั้น ยังมีมาตรา 119 (2) ตาม พ. ร. บ. คุ้มครองแรงงาน พ.
204 เพื่อรายงานและลงนามรับรองโดยสถานศึกษาปัจจุบัน และสแกนข้อมูลเข้ามาในระบบ หากยังไม่ถึงระยะเวลา 365 วัน ฟังก์ชันการรายงานสถานภาพจะไม่ขึ้นค่ะ ดังนั้น ผู้กู้ยืมเงินยังไม่ต้องดำเนินการใดๆเพราะรายงานสถานภาพจะไม่มีปุ่มแจ้งเตือน ให้คลิกค่ะ แบบรายงานสถานภาพ กยศ. 204 กยศ.
Home คำถามที่พบบ่อย การกู้ยืม ผู้กู้ยืมจะติดตามเรื่องการโอนเงินค่าครองชีพด้วยตนเองได้อย่างไร ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินของตนเองได้ ดังนี้ 1. เว็บไซต์ของกองทุน ตรวจสอบยอดหนี้ 2. ช่องทางออนไลน์ Mobile Application "กยศ. Connect" คำถามที่พบบ่อย ที่เกี่ยวข้อง
การลดความล่าช้าของการโอนเงินค่าครองชีพและค่าเล่าเรียน ผู้กู้ยืมต้องดำเนินการ ดังนี้ 1. ต้องดำเนินการในระบบ e-Studentloan ด้วยตนเอง รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลรวมถึงเอกสารของตนเองให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนยื่นสถานศึกษา 2. ตรวจสอบบัญชีธนาคารที่จะรับเงินค่าครองชีพให้มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ มิได้ถูกระงับหรือถูกปิดไป เนื่องจากไม่มีความเคลื่อนไหวของบัญชี สถานศึกษาต้องดำเนินการ ดังนี้ 1. ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด เพื่อไม่ต้องขยายระยะเวลา 2. ต้องดำเนินการในระบบ e-Studentloan ให้ครบทุกขั้นตอนและต้องตรวจสอบเอกสารการกู้ยืมของผู้กู้ยืมทุกราย ให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนส่งผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม (บมจ. ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) 3. ต้องทยอยส่งเอกสารการกู้ยืมให้กับธนาคาร แทนการส่งจำนวนมากในคราวเดียว 4. หากธนาคารส่งเอกสารการกู้ยืมให้แก้ไข ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขและนำส่งธนาคารโดยเร็ว 5. ต้องตรวจสอบการจัดส่งเอกสารให้หน่วยงานผู้รับให้ถูกต้อง เช่น ต้องส่งเอกสารให้ธนาคาร มิใช่ส่งให้กองทุนซึ่งจะเกิดความล่าช้าในการส่งต่อ 6. ผู้มีอำนาจกระทำการแทนสถานศึกษาจะต้องลงลายมือชื่อในใบนำส่งเอกสาร (กยศ.
0 2208 8699 หลังจากได้รับหนังสือแจ้งให้หักเงินดือนของผู้กู้ยืมจากกองทุนฯ นายจ้างสามารถดำเนินการหักนำส่งเงินตามขั้นตอนต่อไปนี้ สมัครขอใช้ระบบ e-PaySLF 1. สมัครสมาชิกยื่นภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ภ. อ. 01 ของกรมสรรพากร (E-Filing) 2. เพิ่มรายการนำส่ง กยศ. ขั้นตอนการนำส่งเงิน 1. เข้าสู่ระบบ e-PaySLF เพื่อรับข้อมูลรายชื่อและจำนวนเงินที่ต้องหักจากระบบ 2. บันทึกรายการและจำนวนเงินที่หักได้เข้าสู่ระบบ 3.
ระบบตรวจสอบเงินคงค้าง (e-Audit) เป็นระบบที่ใช้ติดตามเงินคงค้างในสถานศึกษาที่มีผู้กู้ยืมเงินที่กู้ยืมค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา โดยสถานศึกษาสามารถใช้ข้อมูลหรือรายงานจากระบบเป็นทะเบียนคุมสําหรับตรวจสอบค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาในส่วนที่ได้รับโดยต้องดำเนินการส่งคืนเงินกู้ยืมของผู้กู้ยืมเงินที่มิได้ใช้ ผ่านระบบ e-Audit ยกเว้น สถานศึกษาที่มีผู้กู้ยืมเงินที่กู้ยืมเฉพาะค่าครองชีพไม่ต้องดำเนินการระบบ e-Audit สถานศึกษามีหน้าที่ ตรวจสอบการรับโอนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนี้ 1. ตรวจสอบว่า เงินค่าเล่าเรียนและหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาที่ระบุไว้ในแบบลงทะเบียนเรียน/แบบยืนยันจำนวนค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาและค่าครองชีพ ตรงกับจำนวนเงินที่ผู้กู้ยืมเงิน ยืนยันหรือไม่ หากจำนวนเงินไม่ตรงกัน กองทุนจะโอนเงินค่าเล่าเรียน และหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ให้แก่สถานศึกษาตามจำนวนที่น้อยกว่า 2. ตรวจสอบว่า จำนวนเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาที่สถานศึกษาได้รับจริงจากผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายตามที่ได้ลงทะเบียนเรียนจริง ภายหลังจากเสร็จสิ้นระยะเวลาเพิ่มถอนรายวิชา ตรงกับจำนวนเงินค่าเล่าเรียนและหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาที่กองทุนได้โอนให้สถานหรือไม่ ทั้งนี้ ให้ส่งผลการตรวจสอบดังกล่าวให้กองทุนก่อนวันสิ้นเดือนของวันสิ้นภาคการศึกษา โดยผ่านระบบ e-Audit ของกองทุน หากสถานศึกษาไม่ดำเนินการ สถานศึกษายินยอมให้กองทุนพิจารณาระงับการโอนเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ให้แก่สถานศึกษาสำหรับภาคการศึกษาต่อไป 3.
ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินของตนเองได้ ดังนี้ 1. เว็บไซต์ของกองทุน ตรวจสอบยอดหนี้ 2. ช่องทางออนไลน์ Mobile Application "กยศ. Connect" 1. กรณีมีรายได้ประจำ ใช้สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือนจากหน่วยงาน (ผู้มีอำนาจของหน่วยงานลงนาม) การกรอกรายได้ต้องระบุให้ตรงกับหลักฐานที่แนบและตรงกับข้อมูลที่บันทึกในระบบ 2. กรณีไม่มีรายได้ประจำ ใช้แบบฟอร์ม กยศ. 102 กยศ. 102 หนังสือรับรองรายได้ครอบครัวของผู้กู้ยืมเงิน(กยศ. ) - การกรอกรายได้ต้องระบุข้อมูลให้ตรงกับหนังสือรับรองรายได้ครอบครัวของผู้ขอกู้ยืมเงิน (กยศ.
รถ 6 ล้อ มือ สอง ขอนแก่น, 2024